กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับเฝ้าระวังตรวจพบผู้โดยสารที่มีอาการจากระบบทางเดินหายใจที่เดินทางจากประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และประเทศที่มีรายงานการระบาดของสายพันธุ์ XBB หลังมีข่าวเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตรวจพบสายพันธุ์ XBB 3 ราย เป็นผู้เดินทางจากประเทศไทย พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฮ่องกง เพื่อดำเนินการสอบสวนโรคต่อไป
วันนี้ (14 ตุลาคม 2565) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากข่าวการแถลงการตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XBB 29 คน ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง 24 คน ตรวจพบตอนเดินทางมาถึง และ 5 คน ตรวจพบหลังอยู่ในฮ่องกง 2 วัน ส่วนใหญ่พบเป็นผู้เดินทางมาจากสิงคโปร์ และพบ 3 คน เดินทางมาจากประเทศไทย โดยสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทยรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 2-8 ตุลาคม 2565 จำนวนผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ย 416 รายต่อวัน เสียชีวิต 8 รายต่อวัน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังพบว่าสายพันธุ์ BA.5 ยังคงเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดอยู่ในประเทศไทย
“กรมควบคุมโรค ได้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขผ่านกลไกกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulation: IHR) เพื่อขอทราบข้อมูล 3 รายนี้ ว่าเป็นใคร อาศัยในไทยหรือเป็นผู้โดยสารต่อเครื่องบิน รวมทั้งติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ภายใต้ความร่วมมือของกฎอนามัยระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินการรับมือและเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด 19 จากสายพันธุ์ใหม่ๆ จากข้อมูลต่างประเทศยังไม่พบความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น” นายแพทย์ธเรศกล่าว
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลการติดเชื้อจากสายพันธุ์ XBB ในประเทศไทย โดยประเทศไทยได้ยกระดับการเฝ้าระวังที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินทุกแห่ง หากตรวจพบผู้โดยสารที่มีอาการจากระบบทางเดินหายใจที่เดินทางจากประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และประเทศที่มีรายงานการระบาดของสายพันธุ์ XBB หากมีผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ มีอาการป่วยจากระบบทางเดินหายใจที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลของรัฐ และเฝ้าระวังในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้ทำการสุ่มเพื่อส่งตรวจหาสายพันธุ์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
นายแพทย์โสภณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่จะเดินไปต่างประเทศขอให้ไม่ประมาท โดยศึกษาคำแนะนำของประเทศที่จะเดินทางไป ป้องกันตนเองอยู่เสมอ โดยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ซึ่งมาตรการดังกล่าว จะสามารถป้องกันโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจได้ และหากยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นขอให้รีบไปรับวัคซีน เพราะวัคซีนเป็นตัวช่วยที่ลดความรุนแรงของโรคได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422
*************************
ข้อมูล : กองระบาดวิทยา/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
วันที่ 14 ตุลาคม 2565